Japan’s Financial Services Agency orders AML compliance to several Crypto Exchanges ญี่ปุ่นเตือนเวปเทรดหลายแห่งให้เข้มงวดเรื่องการฟอกเงิน

ช่วงนี้หน่วยงานของรัฐบาลในหลายประเทศเริ่มเข้ามาคุมเข้มตรวจสอบธุรกิจที่เกี่ยวกับ cryptocurrencies เป็นพิเศษ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2018 Financial Services Agency (FSA) ที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลประเทศยี่ปุ่นในการกำกับดูแลหลักทรัพย์ได้ออกคำสั่งให้ธุรกิจบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตัลหลายแหล่งภายในประเทศญี่ปุ่นให้ทำการปรับปรุงการให้บริการ

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ทาง Financial Services Agency (FSA) ของประเทศญี่ปุ่นที่ออกมาเตือนคือเรื่องการทำตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นในเรื่องการป้องกันการฟอกเงินหรือที่เรียกว่า anti-money-laundering (AML) ซึ่งทางหน่วยงานฯดังกล่าวได้ระบุว่ามีจำนวนหลายผู้ประกอบการที่ให้บริการในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตัลไม่ได้มีการดูแลในเรื่องของการป้องกันการฟอกเงินอย่างถูกต้องรวมไปถึงยังขาดการดูแลในเรื่องการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ Know-Your-Customer (KYC) เพื่อป้องกันบุคคลที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเข้ามาใช้งาน และจะได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อตรวจสอบหาเกิดมีเรื่องที่ต้องสงสัยเกิดขึ้น

มีจำนวนทั้งสิ้น 12 ผู้ประกอบการที่ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ถูกแจ้งเตือนโดย Financial Services Agency (FSA) และมีจำนวน 2 รายที่เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุญาตประกอบธุรกิจจากทาง FSA ส่วนอีกจำนวน 10 รายนั้นอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อให้ได้รับการอนุญาตให้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตัลจาก FSA

ส่วนเหตุการณ์ใหญ่จาก 2 ผู้ประกอบการอย่างเช่น CoinCheck ที่มีการโจรกรรมเหรียญ NEM ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Mt. Gox ที่จัดตั้งใน Tokyo ปิดการให้บริการในปี 2014 และยื่นเรื่องเพื่อทำการล้มละลาย จาก 2 กรณีดังกล่าวเป็นกรณีใหญ่และเป็นประวัติศาสตร์ในวงการ Cryptocurrencies ที่มีจำนวนผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จนทำให้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องเข้ามาควบคุมเป็นกรณีพิเศษ

ตั้งแต่ปี 2017 ตามกฎหมายด้านการชำระเงิน (Payment Services Act) ที่มีข้อบังคับให้ผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตัลในประเทศญี่ปุ่นต้องดำเนินการขออนุญาตจาก Financial Services Agency (FSA) เพื่อประกอบธุรกิจ โดยมีผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุญาตในการดำเนินธุรกิจรายแรกในเดือนกันยายน ปี 2017 ซึ่งต่อมาได้มีการคุมเข้มและเข้มงวดเป็นพิเศษโดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันการฟอกเงินและการยืนยีนตัวตนของผู้ใช้บริการ

เนื่องจากการคุมเข้มของ Financial Services Agency (FSA) ทำให้ผู้ให้บริการหลายรายเลือกที่จะหยุดการให้บริการ หรืองดให้บริการลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น และย้ายธุรกิจไปยังประเทศอื่น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตในทางที่สูงขึ้น