สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องและผองเพื่อน ^^ วันนี้มีธุระนิดหน่อยครับ เลยพึ่งได้กลับบ้านมานั่งเฝ้าหน้าคอมฯ ครับ ^^ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่บ้านอ่ะนะครับ ไม่ค่อยอยู่ขนาดที่ว่า ผมไม่เคยไปจ่ายค่าไฟฟ้ามา 3-4 ปีแล้วครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ก็พึ่งจะได้เสียเมื่อตอนปีใหม่นี่เอง เดือนนั้นไฟเกินไปครึ่งหน่วยเอง อิอิอิ (ปกติถ้าใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 50 หน่วยต่อเดือน นานติดกันสามเดือน ตั้งแต่เดือนที่สี่เป็นต้นไป หากใช้ไฟไม่ถึง 50 หน่วย ไม่ต้องไปเสียค่าไฟครับ) ก็จากเดือนมกราคมเป็นต้นมา ผมก็ได้จ่ายค่าไฟฟ้าติดกันอีกสามเดือนอ่ะครับ แต่เดือนละไม่ถึง 50 หน่วยนะ ได้เสียเดือนละ 80-90 บาทเอง ^^ และก็ตอนนี้ ผมกลับมาใช้ไฟฟรีอีกแล้วครับ ^^

จริงๆ แล้ว วันนี้ผมไม่มีอะไรจะเอามาเล่าให้อ่านกันเลยนะครับ เพราะมัวแต่หมกมุ่น วุ่นวาย อยู่กับการปรับแสงภาพถ่ายเพื่อส่งลูกค้า แต่บังเอิญว่า มีน้องนักศึกษาทักมาทางเฟสบุ๊คว่า มีงานด่วนมาให้ช่วยทำให้หน่อย ^^ ตอนแรกผมก็ไม่สะดวกหรอกครับ เลยปฏิเสธไป แต่น้องก็บอกว่า เขาทำไมได้ เขาไม่เข้าใจกับโปรแกรมที่ผมแนะนำให้จริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ นี่ถ้าน้องเขาไม่ใช่คนโสดนะ ผมคงไม่ใจอ่อนกลับคำ กล้ำกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมทำงานให้น้องเขานะเนี่ย อิอิอิอิ

คือน้องเขาอยากได้ไตเติ้ลวีดีโอที่เป็นลูกโลกอ่ะครับ เพราะไปหาโหลดแล้วมันไม่มีให้โหลดแบบฟรี (ซึ่งจริงๆ ผมแนะนำให้เขาเสียตังค์โหลดอ่ะนะ ) แต่มันเป็นงานทำส่งอาจารย์ เขาก็เลยบอกว่า ที่ลงทุนถ่ายวีดีโอกะเพื่อนก็หมดค่าขนมของเดือนนี้ไปกันเยอะแล้ว แค่ไตเติ้ลเจ๋งๆ นี่ ถ้าจะเสียเงินซื้อก็คงไม่ไหวเหมือนกัน พี่ก๊ง ก็เลยเป็นที่พึ่งสุดท้ายของพวกน้องๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เจอเสียงหวานๆ เข้าไป ใจนี่อ่อนระทวยเลย แฮะๆๆๆๆ

วีดีโอตัวนี้เนี่ย คือหลังจากที่ผมไตเติ้ลให้น้องเสร็จแล้ว ผมก็เลยเปลี่ยนแค่ตัวหนังสือแล้วก็เอ็กพอร์ตมาโพสต์นะครับ ^^

---

จริงๆ แล้ว ^^ น้องเขาเรียนเกี่ยวกับสาขาที่ต้องทำงานด้านสร้างสื่อฯ อ่ะครับ ผมจำชื่อสาขาที่น้องเขาเรียนไม่ได้ มันไม่ติดหู ^^ รู้แต่ว่าน้องเขาสวยติดตาครับ อิอิอิอิอิ ^^ ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมคิดว่าพวกการทำสื่อมัลติมีเดียเนี่ย น้องๆ ทุกคน ควรจะได้เรียนเกี่ยวกับโปรแกรมทุกตัวที่ต้องใช้ในการทำสื่อมัลติมีเดียนะ แต่พอผมพูดถึงโปรแกรม After Effects ขึ้นมา น้องๆ ถึงขั้นไปไม่เป็นเลย น้องไม่เคยเรียน แม้แต่รุ่นพี่ที่มาช่วยทำงาน ก็ไม่เคยเรียน ^^ แต่ถ้าเป็น PhotoShop , Illustrator , Premiere Pro ยังพอได้เรียนบ้าง ^^ แต่พอผมพูดถึงโปรแกรมนี้ขึ้นมา ต่อให้เขาเปิดยูทูปดู เขาก็ทำตามไม่เป็นครับ ^^ เพราะไม่ได้เรียนรู้ให้เข้าใจในเรื่องพื้นฐานของการใช้งานโปรแกรม

ปกติถ้าพูดถึงโปรแกรมทั่วๆ ไป อย่าง ไมโครซอฟเวิร์ด , เอ็กเซล , พาวเวอร์พ้อยท์ อะไรพวกนี้ .... ผมใช้ไม่เป็นนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ^^ โปรแกรมส่วนใหญ่ เราจะมองว่ามันคือโปรแกรมทำเอกสาร พิมพ์เอกสาร นำเสนอ ฯลฯ อะไรประมาณนี้ ^^ ซึ่งตัวผมเอง ผมกลับมองว่า โปรแกรมที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารและมัลติมีเดียเกือบจะทุกโปรแกรม มันคือโปรแกรมที่นำเอาแผ่นใสมาวางซ้อนกันนะ อย่างไมโครซอฟเวิร์ด พาวเวอร์พ้อยท์ มันจะเห็นได้อย่างชัดเจน เหมือนเวลาเราพิมพ์ข้อความในเวิร์ดแล้วก็เอารูปไปใส่ บางทีเราก็เอารูปวางซ้อนกับตัวหนังสือก็มีครับ ^^ ซึ่งมันเหมือนกับว่า เรามีกระดาษขาวอยู่หนึ่งแผ่น แล้วก็รูปในแผ่นใสอีกหนึ่งแผ่น แล้วก็แผ่นใสที่มีข้อความตัวหนังสืออีกหนึ่งแผ่น ^^ ซึ่งพอเราเอามาวางซ้อนกัน มันก็จะเหมือนกับว่า เรามองเห็นกระดาษเพียงแผ่นเดียว ^^

ผมเอาแนวคิด "แผ่นใส" มาใช้กับทุกโปรแกรมที่ผมใช้งาน มันก็เลยทำให้ผมปรับความเข้าใจในการใช้งานแต่ละโปรแกรมได้เร็วหน่อย ซึ่งแต่ละโปรแกรมจะเรียกใสพวกนี้ว่า "Layer" คำนี้จะเห็นได้ชัดเจนที่โปรแกรม PhotoShop ครับ ถ้าใครมองไม่เห็นในหน้าโปรแกรม ให้กดปุ่ม F7 ครับ อิอิอิอิอิ โปรแกรมกราฟฟิคและโปรแกรมทำสื่อมัลติมีเดียเกือบจะทุกโปรแกรม ทำงานบน "Layer" หรือ "แผ่นใส" นั่นแหล่ะครับ ^^ หากอยากทำความเข้าใจกับเลเยอร์จริงๆ ต้องลองใช้โปรแกรม PhotoShop ตัดต่อรูปภาพดูครับ เลเยอร์บนสุดลองใช้รูปคนแล้วลบแบ็คกราวด์ออกครับ เลเยอร์ด้านล่าง ก็ลองหากฉากอื่นๆ มาใส่ดูครับ ทีนี้ลองเลือกทำงานปรับทีละเลเยอร์ดู ทำบ่อยๆ เดี๋ยวมันจะคุ้นชินและเข้าใจเองครับ อิอิอิอิ

ทีนี้จาก "Layer" ของโปรแกรมทำภาพนิ่ง ก็ลองมาคิดปรับสภาพมาสู่ภาพเคลื่อนไหวอย่างวีดีโอครับ ^^ จริงๆ แล้ว วีดีโอเป็นภาพนิ่งนะครับ เพียงแต่มันเป็นภาพนิ่งที่นำมาวิ่งต่อกันอะครับ เราก็เลยเห็นมันเป็นภาพเคลื่อนไหว ^^ โดยมาก กล้องวีดีโอของเราสามารถบันทึกภาพนิ่งต่อกันได้อ่ะครับ ก็ส่วนมากมันจะบันทึกภาพนิ่งได้ 30 ภาพ(30 เฟรม) ใน 1 วินาที ครับ (บางรุ่นอาจจะได้น้อยหรือมากกว่านั้น ก็ถ้ากล้องคุณสามารถบันทึกภาพนิ่ง 120 ใน 1 วินาที ได้นะ เอามาทำสโลโมชั่นโคตรสวยเลยครับ ซึ่งผมเคยใช้กล้องตัวนั้นมาแล้ว ราคาครึ่งล้านเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แต่กล้องเขานะ ไม่ใช่กล้องผม อิอิอิอิ เขาให้ผมยืมใช้)

ซึ่งกล้องที่ถ่ายวีดีโอได้ แต่ละตัวนั้นมันจะบอกไว้ครับ ว่ามันสามารถถ่ายภาพนิ่งให้เป็นวีดีโอได้เท่าไหร่ ค่าของมันคือ FPS หรือ Frame Per Second นั่นเอง 15 fps / 25 fps / 30 fps / 60 fps โดยส่วนมาก กล้องวีดีโอที่เราใช้ มันจะมีค่าประมาณนี้ครับ (หากอยากแต่งภาพตัวเองให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ก็นับเอาเองครับว่า ใน 1 วินาที คุณจะต้องแต่งกี่ถาพ ฮ่าๆๆๆๆๆ) ^^ ค่ายิ่งน้อย ภาพก็จะสะดุดและเบลอเยอะ แต่ถ้าค่ายิ่งเยอะ เราจะเอามาสโลโมชั่นแบบไม่สะดุดได้ครับ ^^ ซึ่งกล้องผมเอง สูงสุดก็ได้ค่าแค่ 60 fps ครับ วีดีโอที่ผมถ่ายหากลดสปีดลงครึ่งหนึ่ง วีดีโอจะสะดุดไม่มากครับ อิอิอิอิ

ทีนี้โปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่เราใช้ ก็จะทำงานเป็นเลเยอร์เช่นกันครับ เราสามารถนำวีดีโอมาซ้อนกันได้ครับ ซึ่งโดยพื้นๆ เราอาจจะนำวีดีโอตัวแรกมาวางทับตัวที่สองเดียวเพียงครึ่งเดียวครับ คล้ายๆ กับคนที่คุยโทรศัพท์อยู่กันคนละที่ ^^ หรือทำให้มีวีดีโอจอเล็กในจอใหญ่ได้ครับ ^^

แต่ถ้าซ้อนภาพวีดีโอแบบแอดว๊านซ์หน่อย เราจะถ่ายวีดีโอตัวหนึ่งให้ฉากหลังเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินครับ แล้วใช้คำสังลบส่วนสีเขียวหรือน้ำเงินออก ชื่อคำสั่งมันคือ "Key" มั๊ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ คือผมจำไม่ได้แล้วครับ อิอิอิอิ (เดี๋ยวนี้ผมใช้โปรแกรม After Effects ลบฉากหลังออกจากตัวคนโดยที่ไม่ต้องถ่ายด้วยฉากหลังเขียวหรือน้ำเงินแล้วอ่ะครับ ฉากหลังจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นคนนับพันคนก็ได้ครับ ผมลบออกเอาแค่คนเดียวก็ได้ครับ ผมก็เลยไม่ได้ถ่ายด้วยฉากหลังเขียวหรือน้ำเงินมานานมากครับ แต่ถ้าเอาเนียนจริงๆ ผมก็ต้องถ่ายด้วยฉากหลังเขียวแล้วมาลบใน After Effects นะครับ)

---

ทีนี้กลับเข้ามาถึงโปรแกรมที่น้องๆ เขามีปัญหาต่อดีกว่า ^^ After Effects ใช้สร้างผลงานในระบบมัลติมีเดียได้เกือบเต็มรูปแบบนะครับ ผมใช้งานทำวีดีโอคู่กับโปรแกรม Premiere Pro อ่ะครับ ^^ คือว่า After Efects เนี่ย จะปรับแต่งแก้ไขไฟล์วีดีโอเฉพาะเฟรม ได้ดีมากๆ เลย แต่ถ้าใช้งานตัดต่อวีดีโอยาวเกิน 1 นาที เครื่องคอมฯ คงจะพังครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยมากแล้ว ผมจะเอาวีดีโอที่ผมต้องการจะแก้ไขอย่างมากไม่เกินครั้งละ 10 วินาที จาก Premiere Pro มาแก้ไขใน After Effects ครับ ยิ่งถ้าเอามาทำสโลโมชั่นด้วยนะ After Effects โปรแกรมมันจะคำนวนและช่วยสร้างเฟรมจำลองมาทดแทนในส่วนที่เรายืดสโลโมชั่นออกด้วยครับ ทำให้วีดีโอนั้น แสดงผลออกมาได้อย่างไม่ค่อยจะสะดุด หรือไม่สะดุดเลย ^^

และ After Effects เป็นโปรแกรม 3D ที่เราสามารถสร้างโมเดลสามมิติขึ้นมาได้ด้วยครับ ก็อย่างงานที่น้องเขามารบกวนให้ผมช่วยวันนี้แหล่ะ ที่สำคัญเราสามารถสร้างโมเดลสามมิติที่เคลื่อนไหวได้ แล้วก็วางทับซ้อนลงไปบนวีดีโอได้เลยครับ ^^ "มันเจ๋งเสียจนผมทึ่งกะมันเลยละครับ"

แต่การที่เราจะความเข้าใจในพื้นฐานของมันได้เนี่ย ต้องปรับเอาความเข้าใจทั้งโปรแกรมตกแต่งภาพ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ และโปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติ มารวมกันเลยนะครับ ^^ แต่ก็ไม่ยากหรอกครับ มันก็เหมือนกับโปรแกรมทั่วไป เพียงแต่ตอนที่มันเริ่มต้นทำงานเนี่ย มันจะเริ่มต้นด้วยการทำงานใน 3 ขั้นตอนครับ ^^

---

ขั้นแรกก็เหมือนกับโปรแกรมอื่นๆ ครับ นั่นคือ เราต้องสร้าง New Project ขึ้นมาก่อนครับ เพราะเวลาเราทำงาน มันจะทำงาน Project ซ้อน Project ไม่ได้ครับ โปรแกรมมันไม่ยอม เพราะมันจะคำนวนไม่ได้ มันจะเออเร่อ อิอิอิอิ

ขั้นตอนที่สอง พอเราสร้างโปรเจ็คแล้ว เราต้องมาสร้าง Composition ครับ อันนี้มันเหมือนกับการสร้างโรเจ็คของโปรแกรมตัดต่อวีดีโอครับ แต่เราสามารถเอา Composition แต่ละอันมาวางซ้อนกันได้เหมือนกับเลเยอร์เลยครับ ^^ กำหนดขนาดจอภาพแสดงผล และจำนวน fps ได้เลยครับ ^^

ขั้นตอนที่สามนี่ ฮึๆๆๆๆ สร้าง Layer ครับ อิอิอิ แต่เลเยอร์มันแบ่งยิบย่อยลงไปแบบเจาะจงเลยว่า คุณจะสร้างเลเยอร์ขึ้นมาเพื่อทำงานในลักษณะใหน ผมเองก็อธิบายไม่ถูกหรอกครับ เพราะเวลาผมใช้งาน ผมก็เปิดดูยูทูปเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ คำสั่งมันเยอะ ผมจำได้ไม่หมดหรอก อิอิอิอิอิ

---

การเริ่มใช้งานกับมันนั้น อันดับแรกต้องคิดก่อนเลยว่า จะทำอะไรกับวีดีโอของคุณ จากนั้นไปเซิร์ทหาวิธีทำในยูทูปครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ คือผมก็อธิบายไม่ถูกอ่ะ ว่าวีดีโอที่คุณจะทำนั้น คุณควรสร้างกี่ Composition หรือสร้างกี่ Layer ^^ บางทีแค่ลบแบล็คกราวด์และใส่แบ็คกราวด์ใหม่ เราจบที่ 1 Composition กับ 2 Layer ครับ ^^ ...... แต่ถ้าลบแบ็คกราวด์ใส่แบ็คกราวด์ใหม่ พร้อมมีเอ็ฟเฟ็คและสัตว์ประหลาดด้วย เราอาจจะจบที่ 4 Composition ส่วน Layer นี่ อาจจะนับไม่ได้ครับ

เพราะบางทีถ้าเราลบแบ็คกราวออกจากคน (สมมุติถ่ายตอนกลางวันแดดเปรี้ยงๆ เลย) แล้วเอามาใส่ฉากหลังที่เป็นกลางคืน Composition แรก เราต้องตัดฉากหลังออก นับเป็นหนึ่ง Layer แล้วใส่เอ็ฟเฟ็คย้อมสีทำให้ดูเหมือนเราถ่ายคนตอนกลางคืน นับเป็น Layer ที่สอง ^^ จากนั้น Composition ที่สองเราต้องจัดการกับแบ็คกราวด์กลางคืน ซึ่งบางทีอาจจะมี Layer ที่เป็นฟ้าแลบ ฟ้าผ่า เสริมมาให้ดูน่ากลัวอีก (คือบางทีการถ่ายแบ็คกราวด์ให้มีปรากฏการณ์แบบนั้น คงทำได้ยากมากครับ สู้เรามาทำเอ็ฟเฟ็คใส่เองจะง่ายกว่า) อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะใส่ไปกี่ Layer แล้วทีนี้ก็มาสร้างสัตว์ประหลาดอีก Composition ครับ

ทีนี้เราต้องสร้าง Composition ที่ 4 เพื่อที่จะเอาทั้งสาม Composition มาวางซ้อนกัน และเพื่อสร้างความกลมกลืนของทั้งสามคอมโพส เราต้องใส่ Layer เอ็ฟเฟ็คไปใน Composition ที่ 4 ด้วยครับ

ถ้าใครอ่านจากตัวอักษรแรกมาถึงตรงนี้นะ หลายคนคงจะบอกเลยว่า "งงว่ะ" ฮ่าๆๆๆๆ

ตอนที่ผมเปิดใช้งานโปรแกมนี้ครั้งแรกเมื่อ 5 หรือ 6 ปีก่อนนี่แหล่ะ ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้ว ^^ ผมนี่ประสาทรับทานเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนั้นผมทำวีดีโอพรีเซนเตชั่นงานแต่งงานให้กับลูกค้ารายหนึ่งครับ แล้วลูกค้ารายนี้เนี่ยเป็นเจ้าสาาวที่สวยซะด้วย แล้วผมก็ตอนนั้นผมจีบน้องสาวเขาอยู่ครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ^^ ที่สำคัญที่สุดเลยด้วยความที่ว่าทีมงานอยากได้เงินเขา ไอ้หัวหน้าทีมในตอนนั้นนี่ รับปากเขาว่าทำได้หมดทุกอย่างที่เขาต้องการเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ปรากฏว่าพอส่งงานแล้ว มีปัญหาครับ ภาพสโลโมชั่นมันไม่สมูธ มันลดสปีดลงไปมากจนวีดีโอเล่นสะดุดอย่างเห็นได้ชัดเลย ^^ พวกทีมงานผมในตอนนั้นนี่ พอรับเงินแล้วปัดทุกอย่างเลย บอกกับลูกค้าง่ายมากเลย "มันทำได้แค่นั้น" ^^ ฉิบหายเลย พวกมันปล่อยให้ผมผจญเคราะห์กรรมกับน้องเจ้าสาวตามลำพังครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เหลือเวลาอีกเพียงสองอาทิตย์ที่งานแต่งงานจะเริ่ม ^^ หลายคนคงเข้าใจนะว่า "ผมรู้สึกยังไง" ในเวลาที่ต้องไปเจอน้องสาวเขาเนี่ย ^^ มันถือเป็นตราบาปของผมและน้องสาวเขาที่แนะนำงานมาให้พวกผมเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ^^ ตอนนั้นผมตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหาในความเข้าใจผิดนี้ ก่อนที่มันจะเป็นตราบาปผมไปชั่วชีวิต (งานแต่งงาน ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิตของคนคนหนึ่งอ่ะนะครับ พลาดแล้วให้ไปแก้ไขรอบสองคงจะเป็นไปไม่ได้) ผมพยายามเซิร์ทหาวิธีที่จะทำให้วีดีโอสโลโมชั่นมันสมูธให้ได้ครับ ^^ ก็ถึงได้มาเจอกับ After Effect นี่แหล่ะครับ ^^

แต่ด้วยความที่เราใจจดใจจ่อกับการแก้ไขวีดีโอ จนทำให้ผมไม่สนใจใครเลย โทรศัพท์มาผมก็ไม่รับ ยิ่งเป็นน้องเจ้าสาวโทรมาผมยิ่งไม่รับเลย เพราะถ้ารับปุ๊บ น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรและไม่เป็นที่พอใจ จะกระแทกรูหูก่อนเลยครับ อิอิอิอิ เกรงว่าตัวเองจะกลุ้มใจจนไม่มีสมาธิในการเรียนรู้และเข้าใจในโปรแกรมที่พึ่งรู้จัก ก็เลย ไม่สนใจจะพบปะกับใครเลย แม้กระทั่งคนที่ควรให้ความสำคัญในตอนนั้น ^^ ไม่รู้ว่าจะโดนพี่สาวบ่นอะไรให้รึเปล่า เราก็ไม่ได้รับทราบเลย ^^

ผมแก้ไขวีดีโอเสร็จก่อนที่จะถึงวันงานสองวัน ซึ่งวีดีโอนั้นเป็นที่พอใจของเจ้าสาวในระดับหนึ่งเลย (พอดีผมไม่ได้เก็บวีดีโอไว้ เพราะอารมย์ชั่ววูบครับ อิอิอิ) เจ้าสาวเจ้าบ่าวและน้องเจ้าสาวพอใจมาก แต่ผมนี่ซิ แค่ไม่รับโทรศัพท์ไม่ติดต่อกันแค่อาทิตย์กว่าๆ เอง เขาก็ดันไปมีแฟนใหม่ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ผมส่งงานแล้ว เหมือนยกภูเขาออกจากอก ผมลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา ออกจากเครื่องคอมฯ ผมหมดเลย ลบทีมงานเก่าๆ ออกไปด้วย ^^ พึ่งจะมานึกถึงความสำคัญของงานที่ลบไป ก็เมื่อ 2 ปีต่อมา มีลูกค้าติดต่องานแบบนี้แหล่ะแล้วก็ขอดูตัวอย่างนี่ละครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยศึกษาและใช้งาน After Effect มาเรื่อยๆ นี่แหล่ะครับ ^^

บทความนี้ผมก็คงจะจบลงแค่เพียงเท่านี้แหล่ะครับ ^^ ส่วนที่เหลือด้านล่างนั่น ผมขอบ่นก็แล้วกันครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

---

ไอ้ที่ทำไตเติ้ลให้น้องเนี่ย มันก็ไม่ยากหรอกครับ แต่มันเสียเวลาเรา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนั่งทำเนี่ย 15 นาที ทำจากรูปถ่ายของคนอื่นเขาด้วยครับ แฮะๆๆๆๆ ทำจากรูปถ่ายแบนๆ ให้เป็นภาพสามมิตินี่แหละครับ ^^ นั่งทำแป็บเดียว แต่ตอนเรนเดอร์ออกมาใช้งานเนี่ย 3 ชั่วโมงเลยครับ ถึงเรนเดอร์เสร็จ ^^

ผมคิดว่าเด็กสมัยนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้หาเงินใช้เองสักเท่าไหร่นะครับ แถมบางคนนี่ผู้ปกครองออกเงินซื้ออุปกรณ์ดีๆ (ดีกว่าอุปกรณ์ที่ผมใช้ทำมาหากินซะอีก) ซื้อของดีๆ แพงๆ ให้ใช้งานอีก ไม่รู้ว่าเขานึกยังไงที่ใช้เวลาหมดไปกับอย่างอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิชาความรู้ไว้เพื่อทำงานเลยจริงๆ ^^

จริงอยู่กับคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีใครแก่เกินเรียน" แต่ในช่วงที่มีเวลามากเสียจนหาวิชาความรู้ใส่ตัวได้อย่างสบายๆ เนี่ย กลับเสียทิ้งไปเฉยๆ เลย แล้วดันคิดจะมาเรียนรู้เอาตอนแก่ มันก็เหนื่อยนะ เพราะต้องเรียนเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ ด้วย แล้วก็ต้องทำงานหาเงินด้วย ^^ ส่วนบางคนนี่หาเงินช่วยที่บ้านตั้งแต่เด็กๆ อันนี้ก็ยกเว้นไป แต่เด็กพวกนี้ที่ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างกลับหาความรู้ใส่ตัวได้มากกว่าเด็กที่เพียบพร้อมเสียอีก ^^

จะมีบ้าง ซึ่งผมก็เคยเห็นไม่กี่คนนะ ตอนเด็กๆ นี่ ขยันหาวิชาความรู้ใส่ตัวมากเลย เขามาลำบากก็ตอนที่เข้าทำงานใหม่ๆ ^^ ทุกวันนี้มันหาเรื่องเที่ยวอย่างเดียวเลย ^^ บ้านช่องก็ไม่ค่อยกลับ อ้อ!!อันนี้มันผมนี่หว่า ที่บ้านช่องไม่ค่อยกลับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คือทำไตเติ้ลแค่เท่าที่ผมลงให้ดูเนี่ย 17 วินาที ^^ เวลาเขาจ้างผมทำนะ แค่ 17 วินาที ค่าจ้างก็เกือบๆ หมื่น เลยอ่ะครับ ^^ แต่เสียดายที่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครจ้างครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ คือถ้าน้องเขาไปจ้างคนอื่นทำ ก็คงได้จ่ายราคาเกินห้าพันแน่ๆ ^^ พ่อกะแม่คงหาเงินตาเหลือกเลยละครับ กว่าคุณลูกจะเรียนจบ ^^

My video is at DLive