Breakfast reduces stress ทานอาหารมื้อเช้าช่วยลดความเครียดระหว่างวัน

บอกตามตรงว่าพอเริ่มอายุจะเยอะขึ้น ในแต่ละวันมีแต่เรื่องให้กังวลเรื่องสุขภาพ ที่บอกว่ากังวลก็เพราะว่า ที่ผ่านมามากกว่า 40 ปี ไม่เคยได้ดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง คือต้องบอกว่าใช้ร่างกานแบบเต็มที่ เป็นธรรมดาที่ร่างกายต้องเสื่อมสภาพ โชคไม่ดีว่าร่างกายไม่ได้เป็นเหมือนเครื่องยนต์ ที่เมื่อมีสภาพชำรุดจะทำการซ่อมแซมหรือทำการยกเครื่องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ได้อย่างง่ายได้

เงินที่หาได้อย่างยากลำบาก พอส่วนหนึ่งแล้วก็ต้องนำมาใช้จ่ายในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ โชคดีที่ชีวิตเคยพังแบบล้มเลว ไม่มีที่ซุกหัวนอน จะหันหน้าไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ ทำให้คิดได้ และเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ที่จะมีชีวิตอยู่จนลมหายใจสุดท้ายแบบไม่ต้องพึ่งพาใคร และหันมาพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด หาทางเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงทุกรูปแบบ เพราะไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพที่เคยเป็น

ไม่ว่าคุณจะมีสภาพชีวิตแบบไหน ดึอย่างสบายหรือกำลังยากลำบากต่อสู้กับชีวิต สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการดูแลสุขภาพของคุณให้ดีที่สุด เพราะถ้าสภาพสุขภาพของคุณไม่ดีแล้ว จะทำอะไรก็ยากลำบากเสียเหลือเกิน ส่วนการดูแลสุขภาพก็ไม่อยากพูดเยอะ เพราะว่าข้อมูลเรื่องการดูแลสุขภาพมีอยู่เยอะมาก ขอแต่คุณลงมือทำเท่านั้นเพราะสุขภาพดีไม่วามารถหาซื้อได้ที่ไหน คุณต้องลงมือทำด้วยตัวเอง อะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพก็หยุดซะ มันอาจจะไม่ดีเหมือนแต่ก่อนแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดคือคือเรื่องอาหารเช้า ซึ่งอาหารเช้าในที่ดีหมายถึง อาหารเช้าที่เป็นมื้อแบบจริงๆครบหมวดหมู่อาหาร ไม่ใช่กาแฟแก้ว แล้วถือเป็นอาหารเช้า เพราะว่ามีการศึกษาวิจัยและพบว่า คนที่กินอาหารเช้าจะมีความเครียดในระหว่างวันน้อยกว่า คนที่ไม่กินอาหารเช้า เพราะยิ่งไม่กินอาหารเช้า ยิ่งจะเครียด อารมณ์อ่อนไหว หงุดหงิดง่าย และถ้าคุณกินอาหารเช้าแบบเต็มอิ่มแล้ว ความอยากอาหารในมื้อกลางวัน และมื้อต่อไปจะลดน้อยลง อย่างที่มีคนเคยพูดว่าให้กินอาหารเช้าแบบราชา กินอาหารกลางวันแบบราชินี และกินมื้อเย็นแบบยาจก ใช้หลักแบบนี้ก็จะช่วยในหลายๆเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องความอ้วน แต่เป็นการแบ่งมื้ออาหารให้พอเพียงต่อการใช้งานของร่างกายในแต่ละวัน