Electric vehicles will reach 125 million by 2030 คาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนกว่า 125 ล้านคันภายในปี 2030

International Energy Agency (IEA) ได้คาดการณ์ว่าไม่น่าจะเกิน 20 ปีประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับที่ 11 ของโลกอย่างประเทศญี่ปุ่น จะรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับประชากรทุกคนแล่นอยู่บนท้องถนน

EV หรือ Electric Vehicle คือยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวประมาณ 125 ล้านคันภายในปี 2030 ที่ปริมาณเพิ่มขึ้นแบบนี้ก็เป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศที่ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้บานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนการใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีผลเสียต่อสภาวะอากาศและสร้างปัญหามลภาวะเป็นพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์

ปริมาณยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นตั้งแต่ปี 2017 ที่ทาง International Energy Agency (IEA) ได้คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะมีจำนวน 3.1 ล้านคัน เป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นถึง 54 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนในปี 2016

สำหรับยานพาหนะที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ทาง International Energy Agency (IEA) ได้คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 2 พันล้านคันภายในปี 2035-2040 อย่างไรก็ตามทาง IEA ยังมองเห็นถึงความเป็นไปได้ของปริมาณยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่จะเพิ่มจำนวนถึง 220 ล้านคัน ภายในปี 2030 เนื่องจากว่าในขณะนี้ทั่วทั้งโลกได้หันมาใส่ใจในการต่อสู้สภาพการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ของยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามีราคาถูกลง การเปลี่ยนการใช้งานยานพาหนะจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงมาใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ยังคงต้องอาศัยแรงสนับสนุนและผลักดันจากภาครัฐในประเทศต่างๆ เพื่อดึงดูดประชาชน และให้ภาคธุรกิจสนใจในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ใช้งานพลังงานไฟฟ้า

ในภาคนโยบายของรัฐบาลนั้น ประเทศจีนและประเทศในยุโรปเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการให้การเงินสนับสนุนช่วยเหลือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ในขณะที่ประเทศในยุโรปหลายรัฐบาลมีการเพิ่มภาษีจากการใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง