“อ้าวเฮ้ยน้อง ไปโดนอะไรมาเนี่ย?” เจ้าหน้าที่คุมสอบถามเจ้

in #thai6 years ago

“เอ่อ...จักรยานล้มหน้าตึกครับ”
เจ้ยิ้มแห้งๆ กะเผลกๆเข้าห้องสอบ
“เฮ้ย ไหวป่ะเนี่ยน้อง? ไปรพ.ทำแผลก่อนไหม?”
“ไม่ได้หรอกพี่ นี่วิชาสุดท้าย ต้องสอบ ยังไหวพี่”
“งั้นเข้าไปนั่งก่อน เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้ซับเลือด”
“ไม่เป็นไรพี่ เลือดหยุดไหลแล้วครับ”
นาฬิกาตี เก้าโมงเช้าเป๊ะ ... เริ่มสอบ
นั่นคือเช้าวันสุดท้ายของการเรียนแพทย์
การสอบวิชาสุดท้าย ก่อนเรียนจบหมอของเจ้
นี่ก็ว่าตื่นสายในวันสอบนี่บันเทิงแล้วนะ มาบันเทิงกว่าก็ตอนที่จักรยานล้มสาดหน้าตึกคณะเนี่ยแหละ ข้อเท้าก็เจ็บ ข้อศอกก็ถลอกเลือดซิบ แต่ตอนนั้นดูนาฬิกาแล้วเหลืออีก 7 นาทีจะเริ่มสอบ จะทำอะไรก็ไม่ทันแล้ว
สิ่งที่เจ้ทำได้ก็คือกะเผลกๆเข้าห้องน้ำ วักน้ำล้างแผล ล้างเศษดินออกไป หาอะไรซับๆให้แห้ง แล้วกะเผลกๆต่อขึ้นลิฟท์ไปชั้น 4 เข้าสู่ห้องสอบชี้ชะตา

eyolkyyoljj.jpg

“เฮ้ย มึงโอเคป่ะเนี่ย?”
ออยเพื่อนเจ้ถามจากโต๊ะข้างๆตอนก่อนแจกข้อสอบ
“พอไหวว่ะ เจ็บอยู่เหมือนกัน”
เจ้หันไปตอบแบบไม่แน่ใจนัก แผลเริ่มปวดตุ้บๆ
“เดี๋ยวสอบเสร็จแล้วฉันพาไปทำแผล”
กระดาษข้อสอบแจกพอดี เราสองคนเลยหยุดการสนทนา
เจ้ก็ทนเจ็บไป ทำข้อสอบไป
แผลสดๆ เจออากาศแห้งๆ แอร์หนาวๆ
มันยิ่งเจ็บ ไอ้ที่ปวดตุ้บๆตอนแรก มันเริ่มแรงขึ้น
แต่ก็ทนเจ็บ จนสอบจบอ่ะนะ
ตอนที่จรดดินสอ ฝนคำตอบข้อสุดท้าย
“จบแล้ว เป็นหมอแล้วนะเรา” เจ้บอกตัวเองยิ้มๆ
แต่ ... โอ๊ยยย
แผลยังเจ็บเหมือนเดิมเลยแฮะ
ข้อเท้าที่พลิกตอนล้มก็ปวดหนักกว่าเดิม
ออยพาเจ้ไปแผนกฉุกเฉินทำแผล ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นๆ รีบไปร้านอาหารจองที่เพื่อฉลองเรียนจบกัน “เดี๋ยวทำแผลเสร็จแล้วค่อยตามไป พวกนั้นบอกว่าสั่งอาหารรอไว้ให้แล้วแหละแก” ออยบอกเจ้
เจ้พยักหน้าให้ออย
คุณพยาบาลเทน้ำเกลือ ฟอกแผล
อูยยยย ทั้งเจ็บแผล ทั้งแสบน้ำเกลือ
เจ้หันไปมองแผล
เพิ่งได้สังเกตว่าแผลมันใหญ่เหมือนกัน
นี่ถ้าเป็นเจ้ตอนเด็กๆล้มได้แผลแบบนี้นะ ร้องไห้จ้า ร้องยาวเกินกว่าครึ่งวันแน่นอน (เด็กๆขี้แย เอะอะร้องไห้มันตะพึดตะพือนัง) แต่เช้าวันนั้นคือล้มปุ๊ป ลุกปั้บ รีบเดินลากจักรยานออกไปจากถนนทันที เพราะมีการสอบรออยู่
เออ... ระหว่างทางตั้งแต่เด็กจนถึงตอนที่เรียนจบหมอเนี่ย เจ้หยุดร้องไห้โวยวาย เวลาเจ็บตัวได้แผล ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ....
“เรียนจบซะทีนะแก”
กำลังถามตัวเองในใจอยู่ ออยที่ยืนข้างๆเตียงก็ชวนเจ้คุย เบนความสนใจจากแผล
“ได้เป็นหมอเสียที”
เจ้กัดฟันตอนเห็นคุณพยาบาลกำลังจะทายาฆ่าเชื้อลงที่แผล ที่จริงพยายามไม่มองนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ เผลอหันไปเหลือบมองแว่บหนึ่ง
“โอ๊ยยยย เจ็บ !!!”
เจ้ร้องไปด้วย ขำตัวเองไปด้วย
“นี่ถ้ามาทำแผลแต่เช้า อาจจะไม่เจ็บเท่านั้นนะน้อง”
พี่พยาบาลพยายามเบามือลง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี
“หูยยยย ไม่ได้หรอกพี่ มีสอบ สำคัญกว่าแผล”
“เออ เก่งมากน้อง นี่ได้เป็นหมอแล้วนะเรา”
..... วินาทีนั้นแหละ
ที่เจ้รู้สึกว่า “เป็นผู้ใหญ่แล้ว”
ไม่ใช่วินาทีที่ออยบอกว่า “เรียนจบ”
ไม่ใช่วินาทีที่พี่พยาบาลบอกว่า “เป็นหมอแล้ว”
แต่เป็นวินาที ที่เจ้รู้สึกเจ็บแปล๊บ จากแผลจักรยานล้ม
การเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรียนจบ
การเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่มีงานทำ
การเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บจากแผล
แต่ การเป็นผู้ใหญ่
คือ เรารู้ว่าอะไร สำคัญกว่า “ความเจ็บ”
เจ้ว่านะ คนเราไม่ว่าจะโต จะเด็ก ถ้าได้แผล แผลมันก็คงสร้างความเจ็บให้เราได้เท่าๆกันนั่นล่ะ ไม่ว่ากับเด็กกับผู้ใหญ่ ไม่ว่าแผลกาย หรือแผลใจ
ตอนเป็นเด็ก เราอาจจะร้องไห้ครึ่งค่อนวันให้กับบาดแผลและความเจ็บแบบนี้ แต่พอเราโตขึ้น แม้ความเจ็บจะมีอยู่ที่เดิม เท่าเดิม แต่เราแสดงออกต่างไปจากเดิม เพราะเรารู้ว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่ารออยู่
แผลเจ็บ แต่สอบจบสำคัญกว่า
ดังนั้นไม่คร่ำครวญ ไม่ร้องไห้
แล้วจงพาตัวเองไปเข้าห้องสอบให้ได้
ถ้าวันนั้นเจ้ไม่ยอมทนเจ็บแผล ไม่เข้าสอบ เห็นแผลสำคัญกว่าไปทำแผลก่อน คงต้องเลื่อนการสอบของตัวเจ้เองไปอีก 6 เดือน (วิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉินสมัยเจ้ เปิดสอบทุก 6 เดือน) การได้เป็นหมอก็จะช้าลงไปอีก
เหตุการณ์นั้นกลายมาเป็นภาพจำของเจ้เลยนะว่า เราต้องผ่านความเจ็บเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ถึงเราจะตัวโตขึ้น แต่ความเจ็บมันไม่เคยหายไปหรอก เป็นผู้ใหญ่ก็เจ็บกันได้ เราแค่แสดงออกแตกต่างไปจากเดิม
ไม่ใช่แค่เจ้คนเดียวหรอก
พวกเธอทุกคนก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกัน
อกหัก แต่อ่านหนังสือสอบสำคัญกว่า
ป่วยอยู่ แต่ทำกับข้าวให้ลูกสำคัญกว่า
เหนื่อย แต่เป้าหมายในชีวิตสำคัญกว่า
อยากร้องไห้ แต่รอยยิ้มของครอบครัวสำคัญกว่า
และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ....
ถ้าวันนี้เธอรู้สึก เจ็บ เหนื่อย ป่วย ไม่ไหว อยากร้องไห้ แต่เธอสามารถเก็บไว้ แล้วทำสิ่งที่สำคัญกว่าต่อไปได้ ยินดีด้วยนะคะ เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ
จะเด็ก หรือผู้ใหญ่
จะเป็นแผลกาย หรือแผลใจ
มันก็เจ็บได้เท่ากันนั่นแหละเธอ

Coin Marketplace

STEEM 0.25
TRX 0.11
JST 0.032
BTC 61830.08
ETH 2986.99
USDT 1.00
SBD 3.73