Ulog#86 ทริปเที่ยว กัมพูชา เสียมเรียบ (សៀមរាប) Trip Cambudia Siem Reap #1เดินทางTravel

สวัสดีคะเพื่อนๆ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งทริปนี้เป็นทริปสั้นๆเล็กๆของเรากับเพื่อน @kittima ที่ว่าเป็นทริปเล็กเเละสั้นก็คือเราไปเเค่ 3 วัน 2 คืน เเละการเดินทางของเราก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยมาชมรีวิวการเดินทางครั้งนี้ไปกับเราเลย

ซึ่งเมืองที่เราเลือกไปก็คือ សៀមរាប Siem Reap หรือพี่ไทยเรียกว่า เสียมราฐนั้นเอง... เมื่อได้ข้อมูลการท่องเที่ยวจากบุคคลใกล้ชิดเเละก็ดูตามยูทูปถึงได้รู้ว่าเมืองนี้เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจ ที่สำคัญเขาว่าเครื่องดื่มพวกเบียร์มีราคาที่ถูกมากกก...เเละถนนยามค่ำคืนก็ดูน่าสนใจ(อันนี้คือส่ิงที่ทราบข้อมูล) จากนั้นก็ทำการศึกษา จองที่พักในเเอพเป็นโรงเเรม S-Hotel ในราคา 54 USD. พวกเราก็ทำการเเลกเงินไทยบาทเป็น USD ก่อนเพราะทราบมาว่าประเทศกัมพูชามีการใช้เงิน USD เเละก็เงิน เรียล

เรากับเพื่อนก็เเบ่งหน้าที่กัน เพื่อนทำงานกรุงเทพก็จัดเเจงเรื่องที่พักกับการเเลกเงินไทยบาทเพราะที่ธนาคารกรุงเทพน่าจะมีตัวเลือกมากกว่าบุรีรีรัมย์ ส่วนเราก็จัดการเรื่องการเดินทางหาข้อมูลเเละโทรคุยกับเเท็กซี่ เราเเละเพื่อนก็ได้เเลกเงินไทยบาทคนละ 2500 บาท ได้ประมาณ 150 USD. ตกคนละ 75 USD.

ในส่วนของเราก็ทำการวางเเผนการเดินทางทั้งขาไปเเละกลับ เราได้เบอร์เเท็กซี่มาเพราะมีคนไปมาก่อนหน้าหน้าก็เลยเเนะนำให้เราใช้บริการคนนี้เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าปลอดภัยชัวส์ เราก็เลยโทรไปตามหมายเลขของไทย เเต่เราโทรในตอนกลางวันก็ไม่ติด เขาเลยโทรกลับมาช่วงเย็นๆก็ทำให้รู้ว่าเขาใช้สองเบอร์ถ้าเขาไปที่กัมพูชาก็จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาน เราก็ทำการนัดหมาย เขาพูดภาษาไทยได้เเต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เอาเป็นว่าเราจะเดินทางไปเสียมราฐวันศุกร์ตอนห้าโมงกว่า(ประมาณเวลาเอา)น่าจะไปถึงด่านช่องจอม เขาก็ตกลงราคาคนละ 400 บาท เเต่ต้องนั่งไปกับคนอื่น ถ้าไม่อยากไปกับคนอื่นก็เหมาไปในราคา 1500 บาท (เขารับเงินไทย)

เราออกเดินทาง ประมาณ 8.30 น. ที่สถานีขนส่ง ขึ้นรถจากบุรีรัมย์ ไปสุรินทร์ ประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นรถปรับอากาศ รถคันนี้ต้นทางโคราช ปลายทางสุรินทร์จอดรับผู้โดยสารที่บุรีรัมย์ เราก็ไปนั่งรอบนรถประมาณสักพักใหญ่ๆ 9 โมงกว่าๆรถก็ออกเดินทาง

ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณคนละ 35 บาท ต้องบอกว่าเเล้วเเต่คันบางคันก็ 40 หรือบางคันถ้ามาจากขอนเเก่นก็อาจเป็นอีกราคาหนึ่งซึ่งก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ เดินทางจากบุรีรัมย์ไปสุรินทร์ก็ประมาณหนึ่งชั่วโมงลงจากรถก็เเวะซื้อน้ำกินก่อนไปขึ้นรถตู้

พอไปถึงก็มองหารถตู้เลย เขาจะเขียนว่าช่องจอม ต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถนะคะ เราไปตอนเเรกก็ทะเร่อทะร่าไปนั่งเลยไม่ได้นั่งนานก็จะลืมๆ เลยไปซื้อตั๋วบอกเขาว่าลงที่ด่านช่องจอม ราคาตั๋วคนละ 45 บาท ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงด่านช่องจอม....

ไปถึงด่าน ก็เจอปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับความสะเพร่าตัวเรา เเต่ขอข้ามขั้นตอนนี้ไป 555 เพราะไม่อยากนึกถึง ข้ามด่านไทยไปพี่เเท็กซี่เขาก็โทรหา บอกว่าเขาจะยืนรอตรงด่านของกัมพูชา เราก็บอกว่าเราใส่เสื้อสีนี้นะ ให้เขายืนรอ เขาเห็นเราก็โทรหาเเล้วกวักมือเรียกเราให้ไปตรงด่าน ก็ทำการเช็คพาสปอร์ต จ่ายค่าผ่านด่าน คนละ 100 บาท(ซึ่งปกติเเล้วคนไทยไม่ต้องจ่ายเเต่ก็ไม่มีทางเลือกเเละก็ไม่อยากสร้างปัญหา)

เราไปนั่งเเท็กซี่ ก็รู้ตัวอยู่นะว่าต้องมีการเเชร์กับคนอื่น เเต่เเชร์ในที่นี้พระเจ้า!!! 7 คนในคัน ข้างหน้าที่เห็นในรูปที่นั่งข้างคนขับนั่งสองคน หลังอีก 4 รวมเเล้วในคัน 7 คนจ้าาาา.... เเต่พอดีพี่ผู้หญิงเขาขอไปนั่งข้างหลังตรงกระเป๋าเลยพอจะหายใจโล่งมาหน่อย ประสบการณ์ดีๆ เราก็เปิดใจมาเเล้วถือว่าสนุกสนานได้ประสบการณ์อีเเบบ

จอดทุกที่ขี้ทุกปั้มจริงๆคะ 555 คือพี่คนขับเขาก็คุยโทรศัพท์ตลอดทาง ก็หาลูกค้ามาตลอดทางเรื่อยๆ อยากจอดฉี่ข้างทางก็ได้หมด เเต่เราก็ไม่เครียดนะคะ เพราะนี้คือประสบการณ์ เเละพี่ก็จอดอีกที่หนึ่งข้างทางเป็นร้านขายของกิน เเหละนี้ก็เป็นโฉมหน้าของพี่เเท็กซี่เราเอาภาพมาจากวิดิโออีกทีไม่ต้องคลิ๊กดูนะคะ...555 เเค่ภาพนิ่ง ไปถึงเราก็เห็นว่าน่าสนใจเลยลงไปดูหน่อยไหนๆก็มาเเล้วเขามีอะไรขาย เพื่อนเราถึงกับตกใจไม่กล้าลงไปดูเราก็บอกว่ามาเหอะ เรามาดูบ้านดูเมืองเขาก็เอาให้เต็มที มึงลงมาเหอะ นางก็เลยลงมา เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องอาหารการกินที่สุดเเปลกโพสต์หน้าอีกทีเนอะ

เเละในระหว่างเดินทางไปเรื่อยๆก็เจอตำรวจตั้งด่าน เอาเเล้วไง พี่เเท็กซี่อัดสะปลาป๋อง 7 เเม่ครัวเลย 555 ก็ต้องไปเสียค่าปรับตามระเบียบ เเต่ตัวเรานี้สิก็ดันทำเรื่องโง่เง่าอีกเเบบพี่ไทยสไตส์ คือ มือก็จะถือมือถือถ่ายวิดิโอไปเรื่อยๆ คืออยากเก็บภาพบรรยากาศ ก็เลยไปถ่ายตำรวจตั้งด่าน เห็นว่าพี่เขาก็หล่อเหมือนกันนะจะเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ก็มีตำรวจอีกนายหนึ่งเห็นเราก็เดินดุ่มๆมาที่เรา เขาก็พูดว่า Camera Camera เราก็คิดในเอาเเล้วกุจะติดคุกที่เขมรไหมเนี่ย!!! เเละพี่ที่นั่งมากับเราซึ่งเป็นผู้โดยสารก็รีบเดินตามเราเเละตำรวจไป เขาก็พยายามจะอธิบายว่าเราเป็นคนไทย ไม่รู้ว่าไม่ให้ถ่าย เขาก็เอาโทรศัพท์เราไปลบคลิปที่เราถ่ายไป พี่เขาก็อธิบายเป็นภาษาเขมร เราก็พอจะจับใจความได้ประมาณนี้ ลบเสร็จก็ขึ้นรถไปเราก็ถามพี่เเท็กซี่ว่า พี่ทำไมเขาไม่ให้ถ่าย เขาบอกว่าเขาทำผิด คือไม่ได้เขียนใบสั่ง เอาเเต่เงินไป เราก็อุ๊ปส์!!! ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เหมือนบ้านเราบางด่านบางคนจริงๆ

ขออนุญาตภาพจาก

พี่เเท็กซี่เขาก็ไปส่งเราจนถึงที่ขับไปตาม Google Map ถึงที่พักอย่างปลอดภัยเเล้วเราก็บอกวันกลับให้พี่เขามารับประมาณเที่ยงเพราะเราต้องเช็คเอาท์ก่อนเที่ยงครึ่ง นัดเเนะพี่เเกเสร็จก็เดินไปเช็คอินเข้าห้อง พนักงานก็ต้อนรับดีมาก พูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าเราอีก 555 เงินที่ต้องจ่าย 54 USD. เเต่เราก็รอจ่ายวันกลับ เดินถือของไปห้องพักอย่างเหน็ดเหนื่อย

ขออนุญาตภาพจาก

ห้องพักของเราเป็นเตียงคู่ ในห้องก็จะมี น้ำดื่ม ตู้เย็น ไดส์เป่าผม เสื้อคลุม ผ้าเช็ดตัว มีอาหารเช้าบริการฟรี มีสระว่ายน้ำ ที่มีผ้าเช็ดตัวไว้บริการฟรีตลอด เปลี่ยนได้ตลอดเวลา พวกเราก็นั่งพักได้นิดเดี๋ยวก็พากันลงไปหาว่ายน้ำที่สระ... ตอนเเรกเพื่อนก็จะไม่ยอมไปเเต่เราก็ร่มเร้าให้เพื่อนไป คืออะไร จะมานอนเฉยๆได้ไงเรามาพักผ่อนก็ต้องเต็มที่กับทุกอย่าง

---

---

Part นี้จะเล่าเรื่องการเดินทางนะคะ วันหลังจะมาเล่าประสบการณ์เหตุการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านอีก รับรองว่าเป็นทริปที่น่าประทับใจเเละสนุกมากๆอีกทริปเลยก็ว่าได้ อย่าลืมติดตามได้เรื่อยๆนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ให้กำลังใจมาตลอด...