ไปซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน--ชีวิตในต่างแดน /Shopping At Pavilion Market

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน...

.....ช่วงนี้แอลเออากาศเริ่มเย็นลง สังเกตุได้จากเริ่มมีหมอกลงในตอนเช้า โดยเฉพาะ 2-3 วันก่อน และวันนี้ก็ด้วย เริ่มมีหมอกลงในตอนเช้าตรู่ ที่ทราบเพราะเมื่อเช้าแนตไปช็อปปิ้งซื้อของกินที่พาวิลเลี่ยนมาร์เก็ต (Pavilion Market) ตั้งแต่เช้า ปกติเวลานี้ยังไม่ตื่นเลย แต่เมื่อคืนเข้านอนเร็วกว่าปกติ วันนี้เลยตื่นเช้าได้

.....หากอาทิตย์ไหนนอนดึกก็ไม่สามารถตื่นเช้าขนาดนี้ได้หรอก ฮ่าๆ จริงๆก็ไม่ได้เช้ามาก 7 โมงกว่าๆ ....ที่ตื่นเพราะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนลืมใส่ Elastic Rubber บน Invisalign (หรือที่ดัดฟัน) เลยต้องตื่นมาใส่ ขั้นตอนนี้คือต้องใส่ Elastic Rubber 12 ชั่วโมงต่อวัน อีกไม่นานก็จะถอดออกถาวรและใส่รีเทนเนอร์แล้ว และหลังจากนั้นคงต้องใส่รีเทนเนอร์ไปอีก 6 เดือน

....นี่คือสาเหตุที่ตื่นเช้า ฮ่าๆๆ .... ไหนๆก็ตื่นแล้ว จังหวะพอดีกับที่สามีจะออกไปซื้อของเลยขอตามไปด้วย...เลยได้เห็นว่าเช้าวันนี้หมอกเต็มเลย เลยได้โอกาสถ่ายภาพมาให้เพื่อนได้ชมกันค่ะ ....ขอบอกว่าตอนนี้ไปไหนมาไหนต้องมีกล้องไม่ว่ามือถือหรือกล้องแคนนอน ต้องติดมือไปด้วยตลอด เจออะไรเป็นต้องถ่ายภาพเก็บไว้ เผื่อว่าวันนึงจะได้มีโอกาสนำมาเขียนโพสต์ ฮ่าๆ คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเป็นกัน และจะได้ไม่มีข้ออ้างว่า ไม่รู้จะเขียนอะไร เจออะไรถ่ายภาพไว้ก่อน วันหลังต้องได้ใช้แน่นอน

ภาพหมอกในตอนเช้าที่พาวิลเลี่ยนมาร์เก็ต -- ที่เห็นในภาพนั่นคือหมอกนะค่ะ ไม่ใช่ภาพมัว

...การตื่นเช้าไปซื้อของที่มาร์เก็ต พวกเราก็จะขับรถไป วันนี้จะซื้อพวกเครื่องดื่มโซดา อย่างเป๊บซี่ โค้ก และของอีกหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่ามันจะหนักมาก เลยต้องขนด้วยรถ ปกติถ้าซื้อของไม่กี่อย่าง พวกเราก็จะเดินไป และตอนกลับก็จะหิ้วของกลับ ซึ่งถ้าซื้อของที่หนักมากๆ คงจะถือไม่ไหวแน่ๆ

...แต่คนที่นี่จะไม่ได้เป็นแบบเราสองคน ไปไหนมาไหน แค่ซื้อกาแฟแก้วเดียว บางคนยังต้องขับรถไป ร้านกาแฟก็ไม่ได้ไกล เดินไปแค่ 10 นาที ความสะดวกสบายทำให้คนเคยตัว แต่สำหรับพวกเราถือซะว่าการเดินเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ร่างกายขยับเขยื้อนซะบ้าง มันจะได้มีสุขภาพที่ดี ถึงแม้จะไม่ได้ออกกำลังกายแบบไปยิม ไปฟิตเนส แต่แค่การเดิน แนตคิดว่ามันก็ช่วยในการสูบฉีดโลหิตของหัวใจได้เหมือนกัน ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ฮ่าๆๆ ...นี่คือคติของคนขี้เกียจออกกำลังกายแบบอื่นค่ะ ฮ่าๆๆ

เอาภาพหมอกจางๆในตอนเช้ามาฝากกันอีกสักภาพ 2 ภาพ ---ตรงถนนที่ไปมาร์เก็ต

ตรงลานจอดรถที่มาร์เก็ต

...พวกเราใช้เวลาในการเดินซื้อของประมาณ 30 นาที ซึ่งถือว่าเป็นการช็อปปิ้งที่เร็วที่สุด ปกติถ้าแนตไปช็อปปิ้งคนเดียว โน่นจะใช้เวลาปาไปเป็น 2 ชั่วโมง จะเป็นคนที่เลือกและอ่านฉลากของทุกอย่างที่ซื้อ เพราะว่าของบางอย่างที่นี่ไม่คุ้นเคย ก็ต้องใช้เวลาในการศึกษาหน่อย แต่สามีจะเป็นคนที่กินอะไรเดิมๆ ก็จะซื้ออันนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ไปถึงหยิบใส่รถเข็นแล้วไปต่อ แต่แนตต้องศึกษานิดนึง เพราะเราไม่ได้คุ้นเคยกับของกินของใช้พวกนี้มาก่อน ถึงแม้จะอาศัยอยู่ที่นี่มา 5 ปี แล้ว ของบางอย่างก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ถ้าเป็นเมืองไทยก็คงจะเลือกไม่นานเหมือนกัน จะมียี่ห้อประจำ ไปถึงก็คงจะจับใส่หยิบใส่เช่นกัน

....ก่อนไปจับจ่ายซื้อของสามีจะโหลดคูปองเข้าไปในบัตรสมาชิก เพื่อเวลาจ่ายเงินจะได้รับสิทธิ์ในการลดพิเศษ ซึ่งสำหรับที่นี่คูปองจำเป็นมากจริงๆ การกินอยู่ใช้จ่ายต้องประหยัดเพราะว่าค่าครองชีพค่อนข้างแพง ประหยัดอะไรได้ก็ต้องประหยัด อะไรลดราคาก็ต้องเอาไว้ก่อน อีกอย่างแนตว่ามันเป็นจิตวิทยาด้วยนะ ของลดราคาใครๆก็ชอบ ขอให้ได้ลดสัก 10-20 เซ็นต์ ก็ยังดี ดีกว่าจ่ายราคาเต็ม รู้สึกว่าการจ่ายราคาเต็มมันไม่ชนะยังงัยไม่รู้ หากได้ของลดราคารู้สึกว่าวันนั้นชนะเลิศ ฮ่าๆๆ เป็นกันหรือป่าวค่ะเพื่อนๆ

....ถึงเวลาจ่ายตังค์ หมดไปเกือบ $80 หรือเกือบ 2,500 บาท ก็ไม่มากไม่มาย ได้ของมาแค่นี้ค่ะ ที่เห็นเยอะๆ นั่นคือน้ำอัดลมของสามี ซื้อที 5 แพ๊ค จะได้ราคาที่ถูกมาก เลยดูเหมือนของเยอะ จริงๆไม่เยอะเลย 4 ถุง กับ 5 แพ๊ค

ของที่ซื้อมาเต็มรถเข็นเลย

...ตอนนี้ก็ขนของขึ้นรถ ได้เวลากลับบ้านค่ะ ที่มาช็อปปิ้งเช้าๆ เพราะ 1. คนช็อปปิ้งไม่เยอะ แถวจ่ายตังค์ไม่ต้องรอ...2. ถนนโล่ง รถไม่เยอะ ขับสบาย ...3. อากาศยามเช้าดีมากๆๆๆๆๆ ....แต่ตอนนี้ต้องกลับบ้านไปทำอาหารเช้าก่อนค่ะ ออกมาช็อปปิ้ง 1 ชั่วโมงกว่าๆ ถือว่าเร็วมาก มาร์เก็ตอยู่ไม่ไกลด้วย ขับรถ 5 นาทีถึง จะว่าไปการใช้ชีวิตทุกสิ่งอย่างที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แค่ต้องปรับตัว ปรับตัว และปรับตัว อยู่ที่ไหนก็ต้องปรับตัวแหละเนอะ ....งั้นวันนี้ขอลาเพื่อนๆ ไปทำเบร็กฟาสต์ก่อนค่ะ เริ่มหิวแล้ว ว่าจะทำเฟรนส์โทส์กินกับกาแฟร้อนๆ อยากได้เครื่องดื่มอุ่นๆมาช่วยวอร์มอัพร่างกายหน่อย...ไปละค่ะ..บาย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและสนับสนุนกันมาตลอด

แนต @nattytsteemit