สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Steemit ทุกท่าน

เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส ช่วงนี้โชคดีหน่อยฝนตกแค่ช่วงกลางคืน เพราะที่นี่คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ทำนาในช่วงกลางวัน กลางคืนก็นอนหลับพักผ่อน พอฝนตกก็ทำให้หลับสบายอากาศไม่ร้อน แต่ถ้าฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เราต้องระวังเรื่องน้ำท่วม เพราะพื้นที่บ้านของเราเป็นพื้นที่ต่ำกว่าบ้านหลังอื่นๆ เพื่อนบ้านที่แสนดีที่อยู่ใกล้เคียง ต่างก็ถมดินบริเวณพื้นที่บ้านของพวกเขาจนสูง ไม่เห็นใจเพื่อนบ้านด้วยกัน เวลาฝนตกหนักๆ ติดต่อกัน ทำให้น้ำไหลมารวมกันที่บ้านเรา บ้านเราเลยกลายเป็นจุดรับน้ำไปโดยปริยาย

เมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคม ที่ผ่านมาเราได้ไปอบรมเกี่ยวกับผู้มีรายได้น้อย ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. ที่ที่ว่าการอำเภอ แต่ว่าไม่ได้เอาลงเพราะกำลังหาภาพแมลงเพื่อส่งเข้าประกวด หลังจบกิจกรรมก็เลยเอามาลง เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้าง

3 รู้ สู่ 12 แนวทางสว่างทางการเงิน

รู้ที่ 1

• รู้คำพ่อสอน = ใช้ชีวิตแบบพอเพียง มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ก่อนใช้จ่ายควรคำนึงถึงความจำเป็น ว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปหรือไม่ หรือแค่เป็นเพียงของที่อยากได้
• รู้ตนเอง = รู้จักประมาณตนเอง ว่ามีรายได้เท่าไร มีหนี้สินเท่าไร และแยกแยะความสำคัญในการใช้จ่ายสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้
• รู้รับรู้จ่าย = ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีรายได้มาจากช่องทางไหนบ้าง และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเท่าไร มีรายจ่ายฟุ่มเฟือยใดบ้างหรือไม่ จ่ายแล้วต้องจดจะได้วางแผนทางการเงินได้ถูกต้อง

รู้ที่ 2 รู้การออม

• รู้ออมก่อนใช้ = อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ออมเงินเพื่อความมั่นคง หากอยากลงทุนทำธุรกิจจะได้มีเงินทุน วิธีทำให้เงินเติบโตด้วยการลงทุนได้นั้น จะต้องเริ่มมาจาก "การออมเงิน" ก่อน จึงจะนำเงินไปต่อยอดได้ หรือเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องไปหายืมเงินใคร
• รู้ออมแบบไหน = การออมเงินมีตั้งหลายวิธี แล้วแบบไหนดีล่ะ? ควรปรึกษาธนาคาร ศึกษารายละเอียด การออมแบบต่างๆ และเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง เช่น ฝากเงินในธนาคาร กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ หรือ ออมเงินแบบมีลุ้นรางวัลกับสลากออมทรัทพย์
• รู้ผลตอบแทน = ดอกเบี้ยเงินฝากแบบทบต้น เป็นการนำดอกเบี้ยของแต่ละงวด มารวมเป็นเงินต้นของงวดต่อๆ ไป ในอนาคต (ทบต้นทำให้ดอกเบี้ยที่จะได้รับในงวดถัดๆ ไป เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม) ดอกเบี้ยเงินฝากแบบขั้นบันได อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการฝากเงิน โดยส่วนใหญ่ธนาคารจะกำหนดยอดเงินฝากขึ้นต่ำ รวมทั้งมีเงื่อนไขการเบิกถอนก่อนกำหนด

รู้ที่ 3 รู้ก่อนกู้

• รู้คิดก่อนกู้ = ก่อนกู้เงิน อย่าลืมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาคิดใตร่ตรงให้รอบคอบ บางอย่างยังไม่รีบมาก รอก่อนก็ได้ เก็บเงินอีกนิดก็ซื้อได้แล้วไม่ต้องกู้ให้เสียดอกเบี้ย
• รู้ประเภทเงินกู้ = ศึกษาประเภทเงินกู้ ระยะยาวหรือระยะสั้น รู้วัตถุประสงค์การกู้ ว่าเป็นเงินหมุนเวียน หรือลงทุน ดอกเบี้ยจะต่างกัน ศึกษาให้ดีจะได้มีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
• รู้ทันดอกเบี้ย = ดอกเบี้ยเงินกู้ต้องดูให้ดี เพราะจะเป็นภาระรับผิดชอบของเราจนกว่าจะชำระหนี้หมด ที่สำคัญ อย่ากู้หนี้นอกระบบ เพราะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก
• รู้แหล่งเงินกู้ = อยากกู้เงินต้องกู้ในระบบเท่านั้น แหล่งกู้เงินในระบบมี 4 แบบ 1.สถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. เป็นต้น 2.ธนาคารพาณิชย์ 3.สถาบันการเงินในระบบชุมชน เช่น กองทุนหมู่บ้าน 4.ธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน เช่น บัตรเครดิต
• รู้หลักใช้เงินกู้ = ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่กู้มาเท่านั้น อย่าเอาไปทำอย่างอื่น เพราะอาจทำให้เหลือเงินไม่พอจะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ และอาจมีเงินไม่พอชำระหนี้ด้วย
• รู้การชำระเงิน = ชำระหนี้ให้ตรงเวลา นอกจากทำให้เราไม่เสียค่าปรับ และยังเป็นการรักษาประวัติของเรา ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อครั้งต่อไปง่ายขึ้น และอาจได้รับส่วนลดดอกเบี้ยลงอีก ตรวจสอบรายการในใบเสร็จชำระหนี้ให้ถูกต้องทุกครั้ง

ถ้าเราทำได้ตามที่กล่าวมานี้เราก็จะไม่ปวดหัวเรื่องหนี้สินที่มี เพราะสามารถจัดการได้ แต่การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ สำหรับวันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ @puza