ถ้าไม่เปิดใจ พูดให้ตายก็ไม่สน

สวัสดีครับ
วันนี้ไม่ได้มาคุยเรื่องความรักอะไรนะครับ วันนี้จะมาคุยถึงเรื่องเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซย์ไฟฟ้านิดนึง พอดีวันนี้ได้สนทนากับพี่ที่ทำงาน แล้วก็ได้ทัศนคติเกี่ยวกับรถไฟฟ้ามา ขอเอามาแชร์ให้ผู้อ่านทุกท่านได้มีมุมมอง เกี่ยวกับรถไฟฟ้า ตามประสาคนเขียนแล้วกันนะครับ ก็ไม่ได้มีความรู้อะไร แค่ขอแชร์ประสบการณ์การใช้งานมาประมาณ สองสัปดาห์ กับการหาข้อมูลเพิ่มจาก สมาชิกในโลกออนไลน์

เนื่องจากปัจุบัน รถไฟฟ้าในบ้านเราตอนนี้มีกระแสมากพอสมควร ผมเองก็สนใจ เรื่องนี้มานานพอสมควร เพราะเป็นคนชอบประดิษฐ์ ก็อยากจะลองทำรถไฟฟ้าใช้เองอยู่เหมื่อนกันคับ 555 ก็เปิดใจมาพอสมควรแล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงานสะอาด ที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่ออากาศ และสิ่งแวดล้อม คือประเด่นมีอยู่ว่า คุยกันตั้งนานมีคำพูดของพี่เขาคำนึ่งว่า "คนไทยชอบหลอกกันเอง ว่าไร้มลพิษ แต่ไอ้ที่ใช้อยู่ก็มลพิษนั้นหละ" ผมไม่มีอะไรกับพี่เขานะ ออกตัวก่อน พอดีว่าผมเคยอ่านเจอในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับทัศนฯนี้หละ ผมก็ว่า ออก็ใช้เหมือนที่เขาว่า แต่ผมก็มาคิดดูก็ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าผมไม่เปิดใจ ผมก็อาจจะเออ ออตามพี่เขา แต่ว่ากว่าผมจะได้เจ้าคันนี้มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าที่ผมจะกล่อมเมียให้ยอมผมได้ ฮ่าๆๆ

balanceenergythai.com

ถ้าจะมองในเรื่องของ การผลิตไฟฟ้าที่เอามาชาร์จรถว่ามันก็มาจากการเผาถ่านหิน,น้ำมัน,ก็าซต่างๆ เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งมันก็ใช่ แต่ว่าไฟฟ้าไม่ได้มาจากการเผาอย่างเดี่ยว มันสามารถผลิตจากพลังงานสะอาดอื่นๆได้มากมาย และในปัจจุบันเองทั่วโลกก็กำลังพัฒนาและกำลังขยายการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบพลังงานไฟฟ้าเยอะมากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะจากแสงแดด
แต่อย่าลืมว่าเราเองก็ยังรถน้ำมันอยู่นะ
ถ้าจะมองถึงเรื่องวัสดุอุปกรณ์ ชิ้นส่วนที่ใช้ทำรถไฟฟ้ามีจำนวนน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากครับ แน่นอนว่ามลภาวะจากการสร้างก็ต้องน้อยกว่าด้วยเช่นกัน
ถ้าจะมองถึงเรื่องแบตเตอร์รี่ แบตลิเธียมมีอายุการใช้งานที่นานกว่าแบตตะกั่วกรดมากครับ แล้วก็สามารถนำมารีไซเคิลทำใหม่ได้ครับ จึงไม่ต้องห่วงมากนัก
และนี้เองถึงเป็นที่มาของชื่อเรื่องของผมในวันนี้ "ถ้าไม่เปิดใจ พูดให้ตายก็ไม่สน" ว่าไหมครับ หรือท่านไหนมีความคิดเห็นแบบไหนเกี่ยวกับรถไฟฟ้า รบกวนเสนอแนะ ให้ผมหน่อย จริงๆแล้วผมก็ยังอยากได้ข้อมูลแบบนี้ เพื่อที่ผมจะได้ไปหาข้อมูลมาสนับสนุนตัวผมเองว่า เลือกซื้อรถมาไม่ผิด ฮ่าๆๆๆ เจอกันใหม่โพสต์หน้า สวัสดีครับ