"สมุนไพรใกล้ตัว ไม่ได้มั่วจากประสบการณ์จริง"

in #thai6 years ago

สมุนไพรหาได้ง่ายสบายมาก
มีหลายหลากมากมายอยู่หลายอย่าง
ที่จะเล่าต่อไปนี้ขอชี้ทาง
ว่าทุกอย่างเคยลองใช้ได้ผลจริง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ตอนเช้าอากาศเริ่มจะเย็นหน่อยๆ เหมือนดังจะเตือนว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน ช่วงนี้อากาศเริ่มจะเปลี่ยนแปลง แบ่งร้อนแบ่งหนาว อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

วันนี้ก็อีกเช่นเคยค่ะ ฉันมีเรื่องราวดีๆมีประโยชน์มาเล่าสู่เพื่อนๆฟัง ซึ่งเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวฉันเอง งั้นตามมาเลยค่ะ...

ประสบการณ์ที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้ก็คือเรื่องราวของขมิ้นชัน ซึ่งประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นชันมีมากมายเยอะแยะเลยค่ะ สมัยก่อนตอนที่ฉันคลอดลูกคนแรก แถวบ้านฉันผู้เฒ่าผู้แก่จะให้อยู่ไฟอย่างน้อย7วัน ยิ่งอยู่ได้หลายวันเท่าไหร่ยิ่งดี แม่สามีเป็นคนกำหนดให้ฉันอยู่ไฟ2อาทิตย์

พูดถึงการอยู่ไฟเนี่ย...มันทรมานจริงๆค่ะ เริ่มตั้งแต่นอนผิงไฟ ตะแคงหน้า ตะแคงหลัง ให้ทุกส่วนของร่างกายถูกความร้อนว่างั้นเถอะ น้ำที่ดื่มก็ต้องเป็นน้ำร้อนผสมกับยาฝุ่นบำรุงเลือดและบำรุงน้ำนม วันหนึ่งๆก็ต้องกินหลายถ้วยทีเดียวเลยหละค่ะ ซึ่งถ้วยที่ใช้ใส่น้ำร้อนก็จะเป็นถ้วยตราไก่หรือภาษาบ้านๆก็คือถ้วยกาไก่นั่นเอง ฉันไม่ชอบกินน้ำร้อนเอาซะเลยเพราะมันไม่อร่อย ฉันอยากจะกินน้ำเย็นใจจะขาด แต่ก็จำต้องทน สำหรับน้ำก็ต้องอาบน้ำร้อนวันละหลายครั้ง ซึ่งผู้เฒ่าจะเป็นคนผสมน้ำให้ โดยตักเอาน้ำในปิ๊บที่แขวนอยู่บนเตาไฟสำหรับใช้ดื่มและอาบ เตาไฟก็จะใช้ไม้ทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมแล้วนำดินไปใส่ในกรอบเพื่อป้องกันไฟไหม้ บ้านฉันเรียกว่า"คิงไฟ"โดยใช้ฟืนในการหุงต้ม สมัยนั้นถ้าใครจะคลอดลูกก็ต้องเตรียมหาฟืนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ อ้าว!พูดซะยาวเลย555 พอตักเอาน้ำร้อนแล้วก็ใช้น้ำธรรมดาผสมลงไป ผู้เฒ่าจะใช้มือจุ่มลงไป แต่ไม่ใช่พออุ่นๆนะคะ พอถูกตัวฉันเท่านั้นแหละ ฉันถึงกับสะดุ้งเพราะมันออกไปทางร้อน ผู้เฒ่าให้เหตุผลว่าแผลจะได้หายไวๆ การนอนผิงไฟก็เช่นกัน ท่านบอกว่าแผลจะได้หายไวๆ มดลูกก็ยังจะเข้าอู่อีกด้วย สำหรับการดื่มน้ำร้อนนั้นท่านบอกว่าน้ำนมจะได้มีเยอะๆเพื่อให้ลูกดื่มกิน

2018-10-05 17.17.16.jpg

สำหรับกับข้าวไม่ต้องพูดถึงหรอกค่ะ ไม่ได้สบายเหมือนปัจจุบันนี้ที่อยากกินอะไรก็กินได้ตามสบาย ผู้เฒ่าสมัยนั้นจะมีข้อห้ามเกี่ยวกับอาหารการกินมาก เพราะกลัวว่าจะเป็นอาหารแสลงที่กินเข้าไปแล้วอาจจะทำให้เวียนหัวหรือไม่สบายได้ และกลัวว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกกินอีกด้วย เพื่อนๆรูมั๊ยคะว่าตอนอยู่ไฟฉันกินข้าวกับอะไร บางท่านที่มีอายุเยอะแล้วอาจจะพอรู้ แต่ถ้าใครไม่รู้ฉันก็จะบอกให้ค่ะ บ้านฉันอยู่อีสานและเป็นคนบ้านนอกคอกตื้อสะดือตื้น555...ก็ว่ากันไป การที่จะทำอะไรก็ต้องทำตามประเพณีที่มีมาแต่เก่าก่อน

ทีนี้มาดูอาหารของฉันตอนที่อยู่ไฟกันดีกว่า สำหรับข้าวฉันก็จะกินข้าวเหนียว ส่วนกับข้าวนั้นก็จะเป็นหัวกระเทียมหมกไฟค่ะ ปกติแล้วหัวกระเทียมสดจะแข็ง แต่พอถูกไฟที่ร้อนมันก็จะอ่อนนุม พอกระเทียมสุกจะมีกลิ่นหอม ฉันก็จะแกะเอาเปลือกออก แล้วนำมาจิ้มเกลือและตามไปด้วยข้าวเหนียว ฟังดูแล้วไม่น่าอร่อยเลยใช่มั๊ยล่ะคะ?...
แต่บอกเลยค่ะว่าอร่อยมาก ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนเป็นแม่ลูกอ่อนมันถึงกินอะไรก็อร่อยไปหมด พอกินข้าวอิ่ม ผู้เฒ่าก็จะจัดเตรียมน้ำร้อนผสมกับยาฝุ่นมาไว้ให้ดื่ม ซึ่งสมัยนั้นจะนิยมซื้อยาเลือดสตรีเบอร์๑มาใส่ในน้ำร้อนกินกัน เพื่อบำรุงเลือดและช่วยให้มดลูกเข้าอู่ สำหรับทารกที่คลอดใหม่ๆก็จะเอาใส่ไว้ในกระด้งซึ่งปูรองด้วยผ้า ข้างๆทารกนั้นก็จะมีสมุด ดินสอและเข็ม คงจะป็นการทำเอาเคล็ดเพื่อให้เรียนเก่งๆ สติปัญญาเฉียบแหลมเหมือนกับเข็ม ซึ่งคนนโบราณจะนิยมให้ลูกหลานมีอาชีพเป็นเจ้าคน นายคน ซึ่งพวกเขาจะยกย่องอาชีพรับราชการมากค่ะ แน่ะ!...เผลอออกนอกเรื่องอยู่เรื่อยเลย555...

สำหรับการอยู่ไฟนั้น ฉันเองก็ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่ให้ได้นานที่สุด แต่ปัญหาของมันมีอยู่ว่าฉันมีผื่นหรือตุ่มเล็กๆขึ้นตามตัวนะสิ แม่สามีจึงให้ฉันออกไฟ แหม!...การที่ได้ออกจากการนั่งนอนอยู่ใกล้ๆกองไฟเนี่ย มันช่างแสนจะวิเศษเสียจริงๆ ส่วนลูกน้อยของฉันก็มีผดผื่นขึ้นตามตัวเหมือนกันซะด้วย

ในสมัยนั้นหยูกยาก็หากันแบบง่ายๆค่ะ คือแถวบ้านนอกก็จะนิยมปลูกขมิ้นชันกันอยู่แล้ว เวลามีผดผื่นขึ้นตามตัว เขาก็จะไปขุดเอาเหง้าของขมิ้นชันมาฝนผสมกับน้ำนิดหน่อย แล้วนำมาทาตรงบริเวณที่เป็นวันละ2ครั้ง ไม่นานผดผื่นก็จะหายไปเองค่ะ

2018-10-05 17.10.22.jpg

สำหรับขมื้นชันยังนิยมนำมาทำใส่แกงของทางภาคใต้อีกด้วย สมัยก่อนในช่วงสงกรานต์ ชาวบ้านก็จะทำน้ำหอมไปสรงพระที่วัดในตอนเย็นกัน ฉันและเพื่อนๆก็จะไปขุดเอาเหง้าของขมิ้น ซึ่งเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าสีเหลืองหรือเหลืองจัดจนเป็นสีแสดก็มี ทีนี้ก็นำมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็นำไปฝนโดยการใช้ตะปูเจาะสังกะสีให้เป็นรู แล้วนำขมิ้นชันไปฝน นำมาผสมกับน้ำแล้วใช้ผ้าขาวกรองเอาแต่น้ำ ทีนี้ก็จะได้น้ำหอมกลิ่นขมิ้นแถมยังมีสีเหลืองสวยงามอีกด้วยค่ะ จากนั้นฉันและเพื่อนๆก็จะพากันไปสรงน้ำพระ ซึ่งสงกรานต์บ้านนอกในสมัยก่อนเขาเล่นกันสนุกมาก เอาไว้ว่างๆฉันจะหาโอกาสมาเล่าให้เพื่อนๆได้รับฟังกันอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับขมิ้นชันนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วยค่ะ เป็นต้นว่ามีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชลอวัย รักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยล้างลำไส้ใหญ่ให้สะอาด ช่วยรักษาผดผื่น โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ช่วยในการขับลม ช่วยป้องกันโรคริดสีดงวทวาร ช่วยในการขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อและยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมายค่ะที่ฉันกล่าวไม่หมด

สำหรับการกินเป็นยานั้น ให้นำเหง้าของขมิ้นชันมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง จากนั้นก็นำไปตากแห้งสัก2วันค่ะ ทีนี้ก็นำมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำผึ้งทำเป็นก้อนเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ2-3เม็ดหลังอาหารและก่อนนอน

นอกจากนี้ขมิ้นชันยังรักษาสิว ช่วยในการสมานแผลพุพองให้หายเร็วขึ้น ใช้พอกหน้าจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง นวลใสโดยการนำขมิ้นชันปั่นผสมกับดินสอพอง2-3เม็ดและน้ำมะนาว1ลูก จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ20นาทีแล้วล้างออก ใบหน้าก็จะนวลเนียน ผุดผ่อง

เป็นยังไงบ้างคะเพื่อนๆ สรรพคุณของขมิ้นชันประโยชน์ของมันมีเยอะแยะมากมายจนฉันกล่าวไม่หมดเชียวหละ ยังไงก็ลองไปหามาปลูกไว้ เผื่อได้ใช้ยามจำเป็นกันนะคะ

ฉันต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านและให้กำลังใจด้วยดีเสมอมา ก่อนจากกันขอให้เพื่อนๆจงพบเจอแต่สิ่งที่ดี มีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ ไว้พบกันคราวหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านโพสต์นี้และต้องการสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อหารายได้​ ขอแนะนำลิงค์นี้เลยค่ะ

วิธีลงชื่อสมัครใช้ Steemit แฟลตฟอร์ม​โดยคุณตุ๊กตา
👉 https://steemit.com/thai/@tookta/pt-1
👉 https://steemit.com/thai/@tookta/pt-2

ขอขอบคุณทุกๆอัพโหวต คอมเม้นต์และการติดตามนะคะ

Sort:  

สวัสดีครับคุณป้า เบียคิดว่าสมุนไพรโบราณอย่างเช่นขมิ้นชัน ดีกว่าครีมมาร์คหน้าและยาสมัยใหม่มากๆครับ ^^

ใช่จ่ะเบียร์ ไม่อันตรายด้วย กำจัดสิวเสี้ยนได้ด้วยน๊า...

Coin Marketplace

STEEM 0.29
TRX 0.12
JST 0.033
BTC 62934.09
ETH 3118.65
USDT 1.00
SBD 3.85