"ศัตรูของฉัน"

โอ้ชาวนาอย่างฉันมันบุญน้อย
ที่ต้องคอยแต่น้ำฝนหล่นมาหา
ไม่มีน้ำหญ้าก็ขึ้นเต็มผืนนา
ต้องรีบมาถอนทิ้งเหนื่อยจริงเรา

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามีก็ขับรถหกล้อออกมาชมทุ่ง ช่วงเช้าๆอากาศจะเย็นสบายดีมาก ขณะที่จะออกพ้นหมู่บ้าน ก็มีฝูงวัวกำลังเดินข้ามถนน ซึ่งวัวเหล่านี้ มันไม่เคยจะกลัวรถเลย ขนาดรถฉันวิ่งมาใกล้ตัว มันยังเดินเฉยเลย
มันไม่ยอมหลีกทางให้ ส่วนเจ้าของก็พยายามใช้ไม้แส้ไล่ให้มันมาอยู่ทางเดียวกัน เพื่อที่รถฉันจะผ่านไปได้ แต่มันก็ยังเดินเอ้อละเหย...ลอยมา ลอยมาแล้วอย่าลอยไป...555 กลายเป็นเพลงซะงั้น
ถ้าเปรียบเป็นคน แถวบ้านฉันก็คงจะพูดว่าเดินแบบนักเลง คือเดินแบบไม่เกรงกลัวใคร ว่างั้นเถอะ
กว่าจะผ่านมาได้ เล่นเอาเสียเวลาเลย

สำหรับการเลี้ยงวัวนั้น แถวบ้านฉันก็มีเลี้ยงกันอยู่3-4หลังคาเรือน จึงไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนัก การเลี้ยงของเขาก็ดูแลเอาใจใส่ดีมาก คือเขาจะกางมุ้งให้ด้วย เพราะตอนกลางคืนเหลือบ ริ้น ไร ยุงจะเยอะมาก เขาจึงนำผ้าดางมากางให้ทั่วคอก ผิดกับสมัยก่อนตั้งมากมายเลยหละ สมัยนั้นเขาจะสุมไฟไล่ยุง เผลอๆบางคนก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรมหรือเรียกง่ายๆคือปล่อยตามกะเยิมว่างั้นเถอะ555 ตอนกลางคืนเขาจะผูกไว้ในคอก เสียงวัวควายใช้หางของมันไล่ยุงฟังดูแล้วน่าสงสารมาก

เราใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึง ที่นาผืนนี้จะเป็นรูปร่างคล้ายกระทะ กล่าวคือทั้งสองฝั่งจะเป็นที่ดอน ฉันจึงปลูกอ้อยฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งก็ปลูกมันสำปะหลัง ส่วนตรงกลางซึ่งเป็นท้องแอ่งจะทำนา ที่นาก็ไม่ค่อยลุ่มเสมอกันเท่าไหร่ เป็นที่ลุ่มบ้าง ที่ดอนบ้าง ที่ลุ่มก็พอมีน้ำขังอยู่บ้างจึงไม่ค่อยมีหญ้าขึ้นซักเท่าไหร่

แต่ที่ดอนนี่สิ ไม่มีน้ำขังเลย แต่ก็พอมีความชุ่มชื้น ทำให้หญ้างอกงามตามข้าวมาเลย ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ การที่เราจะปลูกอะไรก็ตาม ถ้าหากมีวัชพืชหรือหญ้าที่เราไม่ต้องการแล้ว ฝันไปเถอะว่าเราจะได้ผลผลิตเท่าที่ควร ดังนั้นหญ้าจึงเป็นศัตรูของฉัน555...เพราะมันเป็นตัวทำลายผลผลิตของฉัน
ดังนั้น วันนี้ฉันจึงเดินทางมาปราบมันด้วยมือของฉันเอง

ที่ดินแปลงนี้ส่วนมากจะเป็นดินทราย ดินซึ่งมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว จึงถอนหญ้าได้ง่าย แต่ก็มีหญ้าบางชนิดที่ถอนยาก ฉันไม่ได้ถอนจนหมดเกลี้ยง แต่จะถอนเฉพาะต้นหญ้าที่สูงท่วมข้าวเท่านั้น ส่วนที่เหลือเอาไว้ทำลายด้วยการฉีดยาฆ่าหญ้า

การถอนหญ้าก็ใช่ว่าจะเสร็จง่ายๆ ก็ฉันถอนคนเดียวนี่ ส่วนรายนั้น ฉันหมายถึงสามีน่ะ...
เขาจะตักดินใส่หกล้อเพื่อนำไปถมที่ที่บ้าน ฉันชื่นชมในความสามารถของเขามาก เขาใช้พลั่วตัก
กว่าจะได้ดินเยอะๆก็เลยเที่ยง

เขามีความพยายามมาก ที่ฉันไม่ได้ตักดินช่วยไม่ใช่อะไรหรอก คือถ้าใส่เยอะเหมือนเมื่อก่อนเขากลัวว่ารถจะติด เขาเลยตักคนเดียว เพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝน ฝนตกบ่อยแต่ไม่ถึงกับตกหนัก ดินจึงมีความชุ่มชื้นมาก เราจึงเอาแค่รถพอไปไหว อีกอย่างเขาก็อยากให้ฉันถอนหญ้าออกจากข้าว ถ้าถอนเสร็จเมือไหร่ ก็คงจะได้ช่วยกันตักดินเพื่อให้มันเสร็จเร็วขึ้น

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ เห็นมั๊ยว่าข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ กว่าจะมาเป็นข้าวนั้น ต้องผ่านอุปสรรค
และขั้นตอนอีกเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวฉันจะนำมาแชร์เรื่อยๆ สำหรับวันนี้ก็คงจะสมควรแก่เวลาแล้ว
ฉันต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่ สำหรับวันนี้
สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณทุกๆโหวต ตอมเม้นต์และการติดตามนะคะ

Thank you for visiting my post and follow me.